ปลูกผมที่ไหนดี

คลินิกบางแห่งใช้วิธีลดราคา จัดโปรโมชั่นแบบเหมากราฟ หรือให้ของแถมมากมาย เพื่อเป็นการจูงใจให้เข้ามารับบริการ

บางแห่งก็ใช้วิธีการโฆษณาชวนเชื่อ หรือสร้างภาพว่าใช้เทคนิคพิเศษที่ล้ำสมัย และเรียกชื่อให้ต่างออกไป เพื่อให้ดูเหนือกว่าที่อื่นๆ 

ทั้งๆที่การปลูกผมในปัจจุบันก็มีเพียง 2 วิธีเท่านั้น คือ FUE กับ FUT

นอกจากนั้น ก็ยังมีดารานักแสดง หรือเอเจนซี่หลายแห่งที่พาคนไทยเดินทางไปปลูกผมที่เกาหลี ซึ่งมีราคาค่อนข้างแพงกว่าในบ้านเรา

แต่สิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าราคาถูกหรือแพง ที่หลายคนกลับมองข้ามไปก็คือ เรื่องของคุณภาพ ความปลอดภัย ความเสี่ยง และผลแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น จนทำให้เราเกิดความทุกข์ใจตามมา

"คุณจึงควรพิจารณา เลือกคลินิกปลูกผมทีมีคุณภาพและราคาสมเหตุสมผล จะเป็นการดีกว่า"

เรามีคำแนะนำ 3 ขั้นตอนที่คุณควรใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะปลูกผมที่ไหนดี

• ขั้นตอนที่  1 หาข้อมูลจาก INTERNET 

• ขั้นตอนที่  2 หลักเกณฑ์การเลือกว่าจะปลูกผมที่ไหนดี

• ขั้นตอนที่ 3 เข้าไปพบแพทย์เพื่อปรึกษา

ขั้นตอนที่ 1 หาข้อมูลจาก INTERNET 

แหล่งค้นหาข้อมูลทาง INTERNET สามารถทำได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่ 

• PANTIP

• FACEBOOK 

• YOUTUBE

• WEBSITE

เพราะการปลูกผมเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญและลงทุนค่อนข้างสูง จึงควรใช้ความรอบคอบและดุลยพินิจเพื่อกลั่นกรองข้อมูลว่า จะปลูกผมที่ไหนดี และข้อมูลนั้นมีความน่าเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด 

**โปรดระลึกไว้เสมอว่า การปลูกผมมีค่าใช้จ่ายสูง จึงควรหาข้อมูลให้มากที่สุดก่อนตัดสินใจ ไม่ต้องรีบร้อน

✅ คำแนะนำ

1.หาข้อมูลทั้งด้านบวกและด้านลบของคลินิกปลูกผมที่คุณคิดว่าดี และเป็นตัวเลือกของคุณ ให้มากที่สุดก่อนตัดสินใจ 

อาจลองใช้ KEYWORD ในการค้นหา เช่น ชื่อคลินิก/ชื่อหมอปลูกผม เป็นต้น ดูว่ามีคนติ คนชม มากน้อยแค่ไหน อย่าดูแต่ราคาไม่แพง / ราคาถูกอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงสิ่งสำคัญอื่นๆ

2.อาจลองติดต่อคลินิกที่คุณสนใจ เช่น โทรไปหา หรือ CHAT ไปพูดคุย พิจารณาความน่าเชื่อถือจากการพูดคุย ว่าเน้นไปในเชิงธุรกิจ เช่น ชี้ชวน จูงใจ เสนอโปรโมชั่น เพื่อให้มารักษา หรือให้ข้อมูลทางการแพทย์

3.ลองเข้าไปหาข้อมูลดูใน PANTIP อ่านและดูรีวิวการปลูกผมของเจ้าของกระทู้ รวมทั้งคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น แล้วพิจารณาว่า คลินิกนั้นดีหรือไม่ดี รีวิวนั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด 

อ่านเพิ่มเติม รู้ทันรีวิวปลูกผม

4.ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่เข้ามาจัดอันดับเรื่องต่างๆ เกือบทุกเรื่องในวงการแพทย์ เช่น คลินิกทำฟัน คลินิกความงาม คลินิกปลูกผม ว่าคลินิกไหนดี โดยการจัดเรียงลำดับ 1-10 เป็นต้น

ส่วนใหญ่ของเว็บไซต์เหล่านี้ เป็นเพียงเว็บไซต์ที่ทำการตลาดให้กับคลินิกที่ลงโฆษณากับเขา ไม่ได้มีการสำรวจทางสถิติแต่อย่างใด 

ความน่าเชื่อถือจึงมีน้อย เพราะมีผลประโยชน์แอบแฝง

1.แพทย์

ปัจจุบันมีทั้งแพทย์เฉพาะทางปลูกผมโดยตรง แพทย์ผิวหนัง และแพทย์จากสาขาอื่นๆมาทำปลูกผมกันอย่างมากมาย ท่านควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการเลือกว่าจะปลูกผมที่ไหนดี

✅ หลักเกณฑ์ที่ควรใช้ในการพิจารณา มีดังนี้คือ

• เป็นแพทย์เฉพาะทางปลูกผม เรียนปลูกผมมาโดยตรง เช่น มีวุฒิบัตร AMERICAN BOARD OF HAIR RESTORATION SURGERY (ABHRS) หรือไม่ หรือเป็นเพียงแพทย์ผิวหนังที่หันมาทำปลูกผมเป็นบริการการเสริม

• มีประสบการณ์ด้านปลูกผมมานานกี่ปี  ยิ่งนานยิ่งดี

• แพทย์ทำปลูกผมวิธีไหน FUT หรือ FUE หรือทำทั้ง 2 แบบ

2.ทีมงาน

จะไปปลูกผมที่ไหนดี ต้องดูทีมงานด้วยเช่นกัน เพราะความสำเร็จของการปลูกผม นอกจากแพทย์แล้วก็ต้องมีทีมงานปลูกผมที่ดีและมีประสบการณ์คอยช่วยเหลือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการปลูกผมต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ทุกขั้นตอนล้วนมีความสำคัญและส่งผลต่อการรักษา 

✅ หลักเกณฑ์ในการพิจารณาทีมงานปลูกผม มีดังต่อไปนี้คือ

• ทีมงานควรประกอบด้วย พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลตั้งแต่ 3-4 คนขึ้นไป ถ้าหากเจ้าหน้าที่มีน้อย การปลูกผมจะใช้เวลานาน กราฟปลูกผม จะมีอัตราการตายเพิ่มขึ้น เส้นผมที่ปลูกก็จะไม่ขึ้นหรือขึ้นไม่ดี

อ่านเพิ่มเติม 5 สาเหตุปลูกผมไม่ขึ้น

• ทีมงานควรมีประสบการณ์และความชำนาญอย่างน้อย 5-10 ปี ขึ้นไป ยิ่งนานยิ่งดี

3.ทำปลูกผมอย่างเดียว

คลินิกไหนที่ทำแต่ปลูกผมเพียงอย่างเดียว ไม่ได้รักษาอย่างอื่น มักจะมีผลงานที่ดีและมีคุณภาพมากกว่าคลินิกที่รักษาหลายๆอย่าง เพราะให้ความสำคัญและโฟกัสกับการปลูกผมเพียงเรื่องเดียว 

• แพทย์ที่ทำปลูกผมถาวรอย่างเดียว จะมีความเชี่ยวชาญและชำนาญในการปลูกผมสูงกว่าแพทย์ที่ทำหัตถการหลายอย่าง

• ทีมงานที่ทำปลูกผมอย่างเดียว ก็จะมีทักษะมากด้วยเช่นเดียวกัน เพราะกว่า 90% ของการปลูกผมแล้วไม่ขึ้น เกิดจากแพทย์และทีมงานปลูกผม

4.ดูรูปก่อนและหลังปลูกผม

สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกคลินิกปลูกผมที่ดีๆ สักแห่ง คือการดูรูปก่อนและหลังปลูกผม แต่ต้องสังเกตให้ดีและพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะอาจมีการใช้มุมกล้องในการถ่ายภาพ ให้ดูดีกว่าตัวจริงก็เป็นได้

✅ คำแนะนำในการดูรูปก่อนและหลังปลูกผม 

• รูปเปรียบเทียบต้องชัดพอสมควร 

• รูปถ่ายควรห่างกันมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งเพียงพอที่จะบอกได้ว่าเส้นผมที่ปลูกขึ้นดีหรือไม่ ถ้าน้อยกว่า 6 เดือน จะบอกไม่ได้ว่าผลการรักษาจะดีหรือไม่

• รูปที่แสดงต้องถ่ายจากมุมกล้องเดียวกัน เช่น รูปด้านหน้าก่อนปลูกเปรียบเทียบกับรูปด้านหน้าหลังปลูก รูปด้านบนศีรษะเปรียบเทียบกับรูปด้านบนศีรษะ ไม่ใช่ก่อนปลูกถ่ายรูปก้มศีรษะ แต่หลังปลูกถ่ายรูปด้านหน้า จะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะเป็นคนละมุมกล้องกัน (ดูรูปตัวอย่าง)

• หวีผมแบบเดียวกันทั้งก่อนและหลังการปลูกผม เพื่อการเปรียบเทียบที่ถูกต้อง ไม่ใช่ก่อนปลูกผมหวีผมเสย หลังปลูกผมหวีผมปิด ไม่เสยให้เห็นผมที่ปลูก ถ้าเห็นแบบนี้อย่าเพิ่งเชื่อ อาจมีอะไรซ่อนเร้นอยู่

• มีรูป ZOOM ใกล้ๆ เพื่อแสดงรายละเอียด ความเป็นธรรมชาติ และคุณภาพของผมที่ปลูก

• ยิ่งมีรูปผลงานให้ดูมากๆยิ่งดี เพื่อความมั่นใจ

อ่านเพิ่มเติม รู้ทันรีวิวปลูกผม

5.มีการรับประกัน

การรับประกันหรือรับรองผลการรักษาถือเป็นส่วนหนึ่งที่ควรอยู่ในเกณฑ์การพิจารณาเลือกว่าจะปลูกผมที่ไหนดี เพราะแสดงถึงความรับผิดชอบและความน่าเชื่อถือของคลินิก นอกจากนั้นยังทำให้คนไข้เกิดความมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลจากคลินิกจนกระทั่งผมที่ปลูกขึ้นมาได้ผลตามที่ได้มุ่งหวังไว้ 

6.มีคนไข้ฝรั่งมารักษา

คลินิกไหนที่มีคุณภาพและบริการดี ก็มักจะมีคนฝรั่งบินมารักษาและรีวิวให้  เพราะการปลูกผมในต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าประเทศไทยมาก 

ฝรั่งจึงนิยมมาปลูกผมที่ประเทศไทย แต่เขาก็จะหาข้อมูลและทำการบ้านมาเป็นอย่างดีก่อนจะบินมารักษา และพิถีพิถันในการเลือกคลินิกปลูกผมที่ดีที่สุดสำหรับตัวเขา เท่ากับว่าฝรั่งได้ช่วยกลั่นกรองคัดเลือกให้เรามาแล้วในระดับหนึ่ง เพราะการเดินทางไปปลูกผมนอกประเทศถือเป็นความเสี่ยง ถ้าคนฝรั่งเขาไม่มั่นใจ ก็จะไม่บินมาปลูกผม 

นอกจากนั้นคนฝรั่งมักเลือกปลูกผมกับคลินิกที่มีคุณภาพและราคาสมเหตุสมผล

ควรอ่านดูรีวิวจากคนไข้ฝรั่ง ฝรั่งเป็นคนเปิดเผย ถ้าไม่ดีก็โพสต์ต่อว่า ถ้าดีก็เขียนชม 

ขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ในการเลือกว่าจะปลูกผมที่ไหนดี คือ การเข้าไปพบแพทย์และปรึกษากับแพทย์โดยตรง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจขั้นสุดท้าย เพราะเมื่อคุณได้หาข้อมูลและทำการบ้านมาเป็นอย่างดีแล้ว คุณน่าจะมีรายชื่อคลินิกที่คิดว่าดี และเป็นตัวเลือกในการปลูกผมสัก 3-4 แห่ง 

คุณควรเข้าไปพบแพทย์ทุกคลินิกที่คุณเลือกไว้  บางคลินิกไม่มีค่าปรึกษา บางที่ก็อาจจะมีค่าปรึกษาถือเสียว่าเป็นการลงทุนหาข้อมูล จะได้ไม่เสียใจในภายหลัง 

เน้นว่าคุณควรได้พูดคุยกับแพทย์โดยตรง ไม่ใช่พูดคุยกับพนักงานขาย

✅ คำแนะนำ

• ถ้าแพทย์ไม่มีเวลาพูดคุยกับคุณ แต่ให้คุณพูดคุยกับพนักงานแทน คลินิกนั้นก็ไม่น่าเป็นตัวเลือก เพราะอาจมีปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมาย

• แพทย์ทำหัตถการปลูกผมเป็นหลัก หรือทำหัตถการอย่างอื่นด้วย เช่น รักษาผิวพรรณ ดูดไขมัน ผ่าตัดเสริมความงามอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับผม คลินิกที่ทำหัตถการหลายอย่าง อาจไม่ชำนาญเรื่องปลูกผม

• คุณควรเตรียมคำถามที่คุณสงสัยไปด้วย เพื่อให้แพทย์อธิบายให้คุณเข้าใจ

• ดูท่าที การตอบคำถาม และคำแนะนำของแพทย์ เปรียบเทียบกับความรู้ที่คุณได้ค้นคว้ามา เพื่อประกอบการตัดสินใจ

• แพทย์มีการนำเสนอการรักษาแบบที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์หรือไม่ หรือ พูดโน้มน้าวให้คุณรับการรักษา หรือเพียงแต่ให้ความรู้ แล้วให้คุณตัดสินใจเอง