คลินิก ปลูกผม THTC
ปลูกผมแบบมีคุณภาพ
โดยแพทย์ American Board
มีคนหัวล้านจำนวนมากที่สนใจจะปลูกผม แต่ก็กลัวการผ่าตัด พอได้ยินคำโฆษณาที่ว่า "ปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด" ก็เกิดความสนใจ แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่ามันมีจริงไหม ? ถ้ามีจริงมันคือวิธีอะไร ? มีขบวนการทำอย่างไร ? หรือเป็นเพียงคำโฆษณา เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น
สารบัญ
ปลูกผมแบบไม่ผ่าตัด มีจริงไหม ?
ปลูกผมแบบไม่ผ่าตัดมีกี่วิธี อะไรบ้าง ?
การปลูกผม FUE ไม่ต้องผ่าตัด จริงไหม ?
ปลูกผม FUE ไร้แผลเป็น จริงไหม ?
ปลูกผมแบบไม่ผ่าตัด มีจริงไหม ?
การปลูกผมแบบไม่ผ่าตัดมีจริง แต่ไม่ได้หมายถึง การปลูกผมถาวรแบบ FUE ที่ใช้โฆษณากันอย่างแพร่หลายตามสื่อต่างๆ ทำให้คนเข้าใจผิด
การปลูกผมถาวร ทุกวิธีเป็นการผ่าตัด ไม่ว่าจะปลูกด้วยเทคนิค FUT FUE DHI ROBOT หรืออะไรก็ตาม
การปลูกผมแบบไม่ผ่าตัด มีกี่วิธี อะไรบ้าง ?
ปัจจุบันการปลูกผมแบบไม่ผ่าตัด ที่นิยมใช้มีด้วยกัน 3 วิธี คือ
1.การใช้ยาปลูกผม
2.PRP ผม หรือ PRP ปลูกผม (PLATELET RICH PLASMA)
3.ฉายแสงหรือเลเซอร์ปลูกผม (LOW LEVEL LASER THERAPY) หรือ LLLT
1. การใช้ยาปลูกผม
การใช้ยาปลูกผมเป็นวิธีที่ปลอดภัย ได้ผลดี และได้รับการรับรองผลการรักษาจาก FDA หรือ อ.ย. อเมริกา แต่ต้องเป็นยาปลูกผมที่แพทย์ใช้เท่านั้น ยาปลูกผมที่วางขายตามท้องตลาดหรือขายทาง ONLINE ไม่ได้มีการรับรองว่าใช้ได้ผลจริง ยาปลูกผมที่ใช้ในทางการแพทย์ ได้แก่
FINASTERIDE
เป็นยากิน
FINASTERIDE ออกฤทธิ์ยับยั้ง TYPE II, 5- ALPHA REDUCTASE ENZYME ซึ่งเปลี่ยน TESTOSTERONE ไป เป็น DHT (DIHYDROTESTOSTERONE ) ซึ่งเป็นสาเหตุของผมร่วงกรรมพันธุ์ในผู้ชาย
จากการศึกษาพบว่า ฟิแนสเทอไรด์ ทำให้ผมร่วงลดลง และกระตุ้นการสร้างเส้นผมใหม่ ใช้ได้ผลดีกับผู้ชายที่มีอาการผมบางเพียงเล็กน้อยและปานกลางและมีการกินยาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
ยากินฟิแนสเทอไรด์สามารถใช้คู่กับยาไมน็อกซิดิลแบบกินหรือแบบทาได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา
✅ ข้อดี
ค่อนข้างปลอดภัย
ใช้ได้ผลดีในการรักษาผมร่วงกรรมพันธุ์
❌ ข้อเสีย
ห้ามใช้ในผู้หญิงและเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี
ผลข้างเคียงของยา FINASTERIDE เช่น ความต้องการและการแข็งตัวของอวัยวะเพศลดลง เต้านมโต ซึมเศร้า ฯลฯ
MINOXIDIL
มีทั้งชนิดกินแและชนิดทา ในที่นี้จะกล่าวถึงชนิดทาเท่านั้น
MINOXIDIL ใช้ทาที่หนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการงอกและยับยั้งการร่วงของเส้นผม
มีทั้งชนิด LOTION ความเข้มข้น 2% หรือ 3% หรือ 5% และชนิด FOAM ความเข้มข้น 5% ซึ่งจะไม่มีสาร
ชนิด FOAM ไม่ทำให้เส้นผมเหนียวเหนอะหนะเหมือนชนิด LOTION
✅ ข้อดี
ปลอดภัย
ราคาไม่แพง
❌ ข้อเสีย
อาจเกิดการระคายเคือง หรือคันหัว บริเวณที่ทายา
เส้นผมเหนียวเหนอะหนะ เพราะบ้านเราอากาศร้อนชื้น
DUTASTERIDE
เป็นยากิน
DUTASTERIDE ออกฤทธิ์ยับยั้ง 5- ALPHA REDUCTASE ENZYME ทั้ง TYPE I และ TYPE II ซึ่งเปลี่ยน TESTOSTERONE ไป เป็น DHT เช่นเดียวกับฟิแนสเทอไรด์ แต่มีความแรงมากกว่า และจะอยู่ในกระแสเลือดนาน
✅ ข้อดี
ค่อนข้างปลอดภัย
ได้ผลการรักษาดี
❌ ข้อเสีย
ห้ามใช้ในผู้หญิงและเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี
มีผลข้างเคียงหรืออาการข้างเคียงจากยา เช่นเดียวกับยา FINASTERIDE คือ ความต้องการทางเพศลดลง การแข็งตัวของอวัยวะสืบพันธุ์ลดลง มีหน้าอกโต อาการทางจิต เช่น ซึมเศร้า
2. PRP ผม หรือ PRP ปลูกผม (PLATELET RICH PLASMA)
การทำ PRP ผม (PLATELET RICH PLASMA ) เป็นนวัตกรรมในการปลูกผมไม่ผ่าตัดอีกรูปแบบหนึ่งโดยยึดหลักว่า ในเกร็ดเลือด (PLATELET) เป็นแหล่งที่เก็บรวบรวมของสารชนิดหนึ่งเรียกว่า GROWTH FACTORS ซึ่งจะทำหน้าที่ไปกระตุ้นเนื้อเยื่อเพื่อการซ่อมแซม เมื่อมีบาดแผลเกิดขึ้นกับร่างกาย
ถ้าเรานำเลือดของเรามาปั่น เพื่อแยกเอาเกร็ดเลือดออก และทำให้มีความเข้มข้นมากขึ้น แล้วนำไปฉีดยังบริเวณที่ต้องการ ก็จะน่าจะช่วยเรื่องการฟื้นตัวและซ่อมแซมเซลล์รากผมบริเวณนั้นให้แข็งแรงขึ้น
จากการศึกษาและทดลองพบว่าเมื่อนำ PRP ไปฉีดที่หนังศีรษะที่ยังมีเส้นผมอยู่ หรือฉีดบริเวณที่ปลูกกราฟผม PRP ก็อาจช่วยในเรื่องการงอกของเส้นผม แต่จะใช้ไม่ได้ผลถ้าบริเวณที่ฉีดไม่มีเส้นผมอยู่เลย จึงควรใช้ PRP รักษาเมื่ออาการผมร่วง ผมบางยังเป็นไม่มาก
⚠️ ข้อควรระวัง
คลินิกบางแห่งโฆษณาว่า PRP ผม เป็นการปลูกผมด้วยสเต็มเซลล์ ซึ่งไม่เป็นความจริง
✅ ข้อดี
ค่อนข้างปลอดภัย
❌ ข้อเสีย
ราคาแพงพอสมควร
ใช้ได้ผลเป็นบางราย บางรายก็ไม่ได้ผล
ไม่มีข้อมูลเพียงพอในปัจจุบันที่จะบอกได้ว่า ต้องฉีดปริมาณกี่ซีซีต่อครั้ง ? ฉีดบ่อยแค่ไหน ? ฉีดทุกเดือนหรือทุก 3-4 เดือน ? ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเห็นผล ? ถ้าได้ผลแล้วต้องฉีดต่อไปเรื่อยๆไหม ?
3. ฉายแสงปลูกผม หรือ LLLT (LOW LEVEL LASER THERAPY)
การฉายแสงปลูกผม (LOW LEVEL LASER THERAPY OR LLLT) มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "PHOTOBIOMODULATION OR PBM" บางคนเรียก "เลเซอร์ปลูกผม" ก็มี
การปลูกผมโดยการฉายแสงเป็นการกระตุ้นเซลล์รากผม (HAIR FOLLICLE) ที่อ่อนแอให้ฟื้นขึ้นมาใหม่ เครื่องฉายแสงมีหลายชนิด บางชนิดคนไข้สามารถซื้อไปทำเองที่บ้านได้ เช่น หมวกเลเซอร์ ปลูกผม (LASER CAP) บางชนิดมีใช้ในคลินิกแพทย์เท่านั้น การใช้เลเซอร์ฟื้นฟูเซลล์รากผม จัดเป็นการปลูกผมไม่ต้องผ่าตัดแบบหนึ่ง
แพทย์ไม่นิยมใช้ LLLT อย่างเดียวในการรักษาผมร่วง มักใช้ร่วมกับการรักษาผมร่วงแบบอื่นๆ
ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอที่จะสรุปได้ว่า ประสิทธิภาพในการรักษาขึ้นกับปัจจัยอะไรบ้าง เช่น ความยาวคลื่นแสงเลเซอร์ ว่าควรเป็นเท่าใด ความถี่ในการรักษา เวลาที่ใช้ในการฉายแสงในแต่ละครั้งว่าควรนานเท่าไหร่ กี่นาที ?
หลักการการทำงานของ LLLT นักวิจัยเองก็ยังไม่ทราบว่า เลเซอร์ไปกระตุ้นให้เส้นผมงอกได้อย่างไร แต่เชื่อว่า
การฉายแสงจะไปกระตุ้นให้เซลล์รากผมเข้าสู่ระยะงอก (ANAGEN RE-ENTRY) ได้เร็วขึ้น ทำให้เส้นผมเพิ่มจำนวนมากขึ้น
ทำให้ระยะงอกยาวนานขึ้น ผมจึงไม่ค่อยร่วง (PROLONGATION OF ANAGEN)
เพิ่มจำนวนเส้นผมในระยะงอก (ANAGEN) และลดจำนวนเส้นผมที่จะเข้าสู่ระยะร่วง (CATAGEN)
มีผลต่อเอนไซม์ 5 ALPHA REDUCTASE ซึ่งทำให้เกิดผมร่วงกรรมพันธุ์ (ANDROGENETIC ALOPECIA OR AGA)
✅ ข้อดี
ปลอดภัย
❌ ข้อเสีย
ค่าใช้จ่ายสูง หมวกเลเซอร์มีหลายชนิด ราคาค่อนข้างแพง
ถ้าทำที่คลินิก ก็ต้องซื้อคอร์สฉายแสงราคาแพง เพราะไม่สามารถจ่ายค่ารักษาเป็นครั้ง แต่ต้องซื้อคอร์สรักษา บางแห่งเสนอราคาถูกเกินจริง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
ไม่ได้ผลทุกราย บางรายได้ผล บางรายก็ไม่ได้ผล ไม่มีการรับประกัน
ปัจจุบันไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะบอกได้ว่า ทำครั้งหนึ่งต้องนานแค่ไหน กี่นาที กี่ชั่วโมง ? ทำบ่อยแค่ไหน ? ทำทุกวันหรือทุก 2-3 วัน ? ต้องทำต่อเนื่องไปนานแค่ไหนกว่าจะเห็นผล ? เป็นต้น
บางโฆษณาอ้างว่า FDA หรือ อ.ย. อเมริการับรองผล แต่ความจริงคือ แค่รับรองความปลอดภัย ไม่ได้รับรองผลการรักษา
ปลูกผม FUE ไม่ต้องผ่าตัด จริงไหม ?
FOLLICULAR UNIT EXCISION (FUE)
ปัจจุบันมีการนำคำว่า "ปลูกผมไม่ต้องผ่าตัด" ไปใช้กับการปลูกผมแบบ FUE เพื่อให้ดูไม่น่ากลัว จึงมีการประดิษฐ์คำขึ้นมาเพื่อสื่อให้เข้าใจผิด
คำโฆษณาที่นิยมใช้กัน
ปลูกผมไม่ผ่าตัด
ปลูกผมไร้แผลเป็น
ปลูกผมไม่ต้องตัดหนังศีรษะ
ปลูกผมไร้แผลผ่าตัด
ปลูกผมไร้รอยแผลเย็บ
ปลูกผม ไม่ต้องตัดหนังศีรษะ ไม่ต้องลงมีด
ชื่อเต็มของ FUE คือ FOLLICULAR UNIT EXCISION
คำนิยามทางการแพทย์
"FUE IS A SURGICAL METHOD FOR OBTAINING HAIR FOR TRANSPLANTATION"
คำแปล "FUE เป็นวิธีการผ่าตัดชนิดหนึ่งในการเอาเส้นผมเพื่อนำไปปลูก"
FUE จึงเป็นการปลูกผมแบบผ่าตัดเช่นเดียวกัน เพราะต้องฉีดยาชา และใช้เครื่องมือเจาะเข้าไปที่หนังศีรษะเพื่อเอาเซลล์รากผมมาปลูก
FUE ไร้แผลเป็น จริงไหม ?
แท้ที่จริงแล้ว การปลูกผมแบบ FUE ก็มีแผลเป็นเช่นเดียวกันกับการปลูกผมแบบอื่นๆ ไม่มีการผ่าตัดอะไรที่ไม่เกิดแผลเป็นตามมา
เพียงแต่ว่า
แผลเป็นมีลักษณะเป็นจุด ๆ อยู่กระจัดกระจาย ไม่เห็นเป็นเส้นเหมือนแผลเป็นจากการปลูกผมแบบ FUT
แต่ถ้าโกนผม ก็จะเห็นแผลเป็นได้เช่นเดียวกัน
ในคนไข้บางรายซึ่งจำเป็นต้องปลูกผมซ้ำ จุดแผลเป็นก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นและอยู่ใกล้กันมากขึ้น จนสามารถสังเกตเห็นได้ และบางครั้งจุดแผลเป็นเหล่านี้อาจมีสีเข้มหรือจางกว่าสีของหนังศีรษะ ทำให้เห็นรอยจุดแผลเป็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
หากคำนวณด้วยหลักทางคณิตศาสตร์แล้ว วิธี FUE กลับมีแผลเป็นมากกว่า วิธี FUT เสียอีก
สรุป
ขอให้คุณพึงระวังในการหาข้อมูล เพราะมีการโฆษณาที่ไม่ถูกต้อง (FALSE ADVERTISING) ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเข้าใจไขว้เขว เช่น การอ้างว่าการปลูกผมแบบ FUE เป็นการปลูกผมที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น ฯลฯ ทำนองนี้
น่าเสียดายที่แพทยสภามีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอที่จะตรวจสอบข้อความที่โฆษณาเหล่านั้น ข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. ๒๕๔๙ บัญญัติไว้ว่า
“ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่หลอกลวงผู้ป่วยให้หลงเข้าใจผิดเพื่อประโยชน์ของตน”
ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภทรัพย์และเกียรติยศ จะตกมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งวิชาชีพไว้ให้บริสุทธิ์
คำสอนของ สมเด็จพระบรมราชชนก
เรื่องน่ารู้