คลินิกปลูกผม THTC
ปลูกผมแบบมีคุณภาพ
โดยแพทย์ American Board
การทำ PRP ผม เป็นนวตกรรมใหม่ที่นำมาใช้ในการรักษาภาวะผมร่วง ผมบาง ปัจจุบันมีคลินิกรักษาผมร่วง และคลินิกปลูกผมหลายแห่งได้นำ PRP ผม มาให้บริการแก่คนไข้
สารบัญ
PRP ผม คืออะไร ?
คำว่า PRP ย่อมาจาก Platelet-Rich Plasma
PRP ผม คือ การนำเอาเกร็ดเลือด (Platelet) ของตัวเองมาทำให้เข้มข้นขึ้นโดยขบวนการทางการแพทย์ แล้วนำมาฉีดที่หนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นเซลล์รากผมของตัวเองให้สร้างเส้นผมใหม่ที่แข็งแรงขึ้น
PRP ผม ทำโดยการดูดเอาเลือดออกมาประมาณ 40-100 cc. แล้วนำมาปั่นเพื่อแยก เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว น้ำเลือดหรือพลาสมาซึ่งมีเกร็ดเลือดผสมอยู่ ออกจากกัน โดยจะได้องค์ประกอบของเลือดแยกออกจากกันเป็นชั้นๆดังนี้ คือ
1.ชั้นเม็ดเลือดแดง (Red & White Blood Cells)
2.ชั้นเกร็ดเลือดและพลาสมาที่มีความเข้มข้นน้อย (Platelet-Poor Plasma)
3.ชั้นเกร็ดเลือดและพลาสมาที่มีความเข้มข้นมาก (Platelet-Rich Plasma หรือ PRP)
แล้วนำเอาเฉพาะชั้นเกร็ดเลือดและพลาสมาที่มีความเข้มข้นมาก (3) มาฉีดที่บริเวณที่มีเส้นผมบางๆ โดยเชื่อว่าในเกร็ดเลือดของคนเรามีสารที่เรียกว่า GROWTH FACTORS ซึ่งสามารถจะไปกระตุ้นเซลล์รากผมให้สร้างเส้นผมใหม่ที่แข็งแรงขึ้นมาทดแทนเส้นผมเดิมที่อ่อนแอ หรือเสื่อมสภาพจากสาเหตุต่างๆ
PRP อาจใช้ร่วมกับยาปลูกผม หรือวิธีรักษาผมร่วงแบบอื่นๆ หรือใช้หลังการปลูกผมถาวร
PRP ผม เหมาะกับใคร ?
การรักษาด้วย PRP ผม เหมาะที่จะใช้กับคนไข้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางจากกรรพันธุ์ หรือโรคบางชนิด เช่น
ผู้ชายและผู้หญิงที่เริ่มมีภาวะผมร่วง ผมบางจากกรรมพันธุ์ในระยะเริ่มแรก
ภาวะผมร่วงเป็นหย่อม
คนที่มีสุขภาพดี และไม่ได้กำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดอยู่
คนที่มีรายได้พอสมควร เนื่องจากต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนไม่น้อย
PRP ผม ไม่เหมาะกับใคร ?
การทำ PRP ผม ไม่เหมาะที่จะใช้ในคนไข้ในกลุ่มนี้ ได้แก่
คนกลัวเข็ม
คนติดเชื้อ HIV
คนที่กำลังใช้ยาเคมีบำบัดอยู่
คนที่มีความบกพร่องของระบบภูมิต้านทาน หรือกำลังใช้ยากดภูมิต้านทานของร่างกายอยู่
คนที่กำลังมีการอักเสบติดเชื้อของบริเวณของหนังศีรษะ
คนที่มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดหรือมีเกร็ดเลือดต่ำ
คนที่มีรายได้ไม่แน่นอน เพราะการทำ PRP ในแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายไม่น้อย และต้องทำอย่างต่อเนื่องในช่วงแรก เช่น ฉีดทุกเดือนต่อเนื่อง 3 เดือน หลังจากนั้นก็ต้องฉีดตามระยะเวลาที่แพทย์นัด เช่น ต้องฉีดซ้ำทุก 6 เดือน เป็นต้น
PRP ผม ใช้ได้ผลไหม ?
แม้จะมีการใช้ PRP มาช่วยในการรักษา เพื่อเสริมสร้างและซ่อมแซมกระดูก เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ที่ได้รับการบาดเจ็บมากว่า 40 ปี แต่ในปัจจุบัน วงการแพทย์ด้านรักษาเส้นผม ก็ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอว่า PRP ผม จะช่วยรักษาภาวะผมร่วง ผมบาง ได้จริงหรือไม่
แม้ว่าโดยทางทฤษฎีแล้วมันน่าจะใช้ได้ผลบ้างไม่มากก็น้อย มีการศึกษาและทดลองที่เกี่ยวกับ PRP มากมาย มีทั้งที่ได้ผลเพียงเล็กน้อย ได้ผลปานกลางและที่ไม่ได้ผลเลยก็มี
PRP ผม ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาของการฉีด PRP ผม มีตั้งแต่ 2000 - 20000 บาทต่อครั้ง บางคลินิกคิดราคาเป็นคอร์ส ต่อการฉีด 4-6 ครั้ง ซึ่งทำให้ราคาเฉลี่ยต่อครั้งถูกลง แต่ก็ต้องจ่ายล่วงหน้าเป็นเงินก้อนโต
PRP ผม ต้องทำกี่ครั้ง ?
ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนว่าต้องทำ PRP ผมกี่ครั้ง จึงจะเห็นผล และเมื่อได้ผลแล้ว จะต้องฉีดซ้ำบ่อยแค่ไหน
ส่วนใหญ่แนะนำให้ฉีดอย่างน้อย 3-4 ครั้ง ห่างกันทุก 2-4 สัปดาห์ จนกว่าจะเห็นผล และฉีดกระตุ้นทุก 6 เดือน ต่อเนื่องไป
PRP ผม เจ็บไหม ?
ความเจ็บปวดจากการฉีด PRP ขึ้นกับบริเวณที่จะฉีด ว่ากว้างมากน้อยแค่ไหน เพราะต้องฉีดทีละจุด ทีละจุด ประมาณ 10-20 เข็มต่อการทำแต่ละครั้ง จนทั่วทั้งบริเวณที่มีผมบาง ซึ่งก็คงต้องรู้สึกเจ็บอยู่บ้างเป็นธรรมดา
แต่แพทย์มักใช้ทาชาทาก่อนที่จะฉีดยา หรือพิจารณาฉีดยาชาให้ในคนไข้ที่มีความไวต่อความเจ็บปวดมากกว่าคนปกติ
PRP ผม ที่ไหนดี ?
คงตอบยากว่าจะทำ PRP ผมที่ไหนดี คนไข้ต้องใช้วิจารณญาณของตัวเอง ในการเลือกแพทย์ที่มีความรู้ ความชำนาญ และเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ และมีรูปตัวอย่างของคนไข้ ก่อนและหลังการรักษาประกอบ
หรืออาจดูรีวิว PRP ผม ว่าดีหรือไม่อย่างไร ก่อนการตัดสินใจ แต่ต้องระวังรีวิวที่แฝงการโฆษณา เสนอโปรโมชั่นลดราคาเพื่อการจูงใจ
PRP หลังปลูกผม จำเป็นไหม ?
จากประประสบการณ์ของเราที่ทำปลูกผมมาเกือบ 21 ปี เราไม่เคยฉีด PRP หลังปลูกผมให้แก่คนไข้เลย แต่ก็พบว่าส่วนใหญ่ผมที่ปลูกก็ขึ้นดี ไม่มีปัญหาอะไร
เพราะการปลูกผมแล้วไม่ขึ้น ส่วนใหญ่ขึ้นกับความชำนาญของแพทย์ ทีมงานและการดูแลหลังปลูกผมมากกว่าสาเหตุอย่างอื่น
ถ้าถามว่า PRP หลังปลูกผมจำเป็นไหม ก็ขอตอบว่าถ้าต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อเป็น ค่าฉีด PRP ก็ไม่จำเป็น แต่ถ้าแพทย์ฉีดให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายก็คงไม่มีผลเสียอะไร
อ่านเพิ่มเติม 5 สาเหตุปลูกผมไม่ขึ้น
สรุป
PRP ผม เป็นการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายไม่น้อย และยังไม่ได้รับรองผลการรักษาจาก อย. อเมริกา (FDA)
PRP จึงเหมาะที่จะใช้กับกรณีที่คนไข้รักษาที่ใช้ยารักษาผมร่วงแล้วไม่ค่อยได้ผลหรือได้ผลไม่ดี หรือเกิดจากผลข้างเคียงของยา
เพราะการใช้ยารักษาผมร่วงมักได้ผลค่อนข้างดี มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า PRP ผมเป็นอย่างมาก ไม่เจ็บตัว และมียังผลทางการแพทย์ยืนยันสนับสนุนอีกด้วย
เรื่องน่ารู้