คลินิกปลูกผม THTC
ปลูกผมแบบมีคุณภาพ
โดยแพทย์ American Board
เราได้รวบรวมคำถามที่พบได้บ่อยๆ และข้อสงสัยต่างๆ จากคนไข้ที่สอบถามเข้ามาที่คลินิก มาตอบเพื่อให้ท่านจะได้มีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเส้นผมและการปลูกผม
คำถาม-คำตอบ
Q : ปลูกผม ราคาแพงไหม ?
A : ราคาปลูกผมจะแพงหรือไม่ ขึ้นกับจำนวนกราฟผมที่ต้องใช้ในการปลูก
ราคาปลูกผม จะคำนวณจาก
จำนวนกราฟที่ใช้ปลูก x ราคาต่อกราฟ
เช่น ปลูกผม 1000 กราฟๆละ 60 บาท ค่าใช้จ่าย = 60,000 บาท เป็นต้น
ดูรายละเอียดที่ ราคาปลูกผม
Q : การปลูกผมเจ็บมากไหม ?
A : การปลูกผมไม่เจ็บมากอย่างที่คิด
ส่วนใหญ่จะเจ็บตอนเริ่มฉีดยาชาเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว ก็ไม่รู้สึกเจ็บ คงพอ ๆ กับการทำฟันครับ
อ่านเพิ่มเติม ปลูกผมเจ็บไหม
Q : การปลูกผมต้องวางยาสลบไหม ?
A : การปลูกผมไม่ต้องวางยาสลบแต่อย่างใด เพราะ
1.การปลูกผมเป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เพียงแค่ยาชาเฉพาะที่เหมือนการผ่าตัดเล็กทั่วไป เช่น การเสริมจมูก การผ่าตัดหนังตา ฯลฯ
2.การ วาง/ดมยาสลบไม่ปลอดภัย เนื่องจากต้องใช้เวลาผ่าตัดหลายชั่วโมง คนไข้อาจจะได้รับอันตรายจากการดมยาสลบได้
3.การดมยาสลบนั้นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของวิสัญญีแพทย์อย่างใกล้ชิด และต้องทำในโรงพยาบาลเท่านั้น ไม่สามารถทำที่คลินิกได้ และจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
Q : การปลูกผมใช้เวลากี่ชั่วโมง ?
A : โดยทั่วไป ในการปลูกผมแต่ละครั้ง ใช้เวลาประมาณ 3-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่ปลูก เช่น
ปลูกผมจำนวน 500-1000 กราฟ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ปลูกผมจำนวน 1000-1500 กราฟ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
ปลูกผมจำนวน 1500-2000 กราฟ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
ปลูกผมจำนวน 2000-2500 กราฟ ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
ปลูกผมจำนวน 2500-3000 กราฟ ใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง
Q : จะคำนวณกราฟปลูกผมได้อย่างไร ว่าต้องปลูกผมกี่กราฟ ?
A : การคำนวณว่าต้องปลูกผมกี่กราฟ ทำได้ 2 วิธี คือ
1. ส่งรูปมาให้แพทย์ประเมินที่
Line ID: thtc1
Email : thaihairclinic@gmail.com
2. เดินทางมาที่คลินิกให้แพทย์ประเมินโดยตรง
Q : ในการปลูกผมแต่ละครั้ง ต้องปลูกขั้นต่ำกี่กราฟ สูงสุดไม่เกินกี่กราฟ ?
A : คลินิกเราไม่ได้กำหนดว่า ในการปลูกผมแต่ละครั้ง ต้องปลูกผมขั้นต่ำกี่กราฟ สูงสุดกี่กราฟ
แต่แนะนำว่าควรปลูกให้เต็มพื้นที่ และให้ได้ความหนาแน่นที่พอเหมาะด้วย มิฉะนั้นจะดูไม่เป็นธรรมชาติ
ถ้ากราฟจำนวนน้อยเกินไป เวลาผมขึ้นก็จะดูเหมือนคนผมบาง ถ้าปลูกกราฟมากหรือแน่นเกินไป เซลล์รากผมที่ปลูกอาจจะตายและทำให้ผมที่ปลูกไม่ขึ้น
Q : ปลูกผมอายุเท่าไหร่ดี ?
A : อายุที่สามารถจะปลูกผมได้ คือ อายุ 20-70 ปี
แต่ก็ไม่มีข้อกำหนดที่ตายตัวว่าต้องปลูกผมอายุเท่าไหร่ดี แพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆไป
Q : ปลูกผม อันตรายไหม ?
A : การปลูกผม ไม่อันตราย เพราะ
เป็นการผ่าตัดเล็กชนิดหนึ่ง ใช้เพียงยาชาเฉพาะที่เท่านั้น
เป็นหัตถการที่ได้รับการอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขให้ทำในคลินิกได้
**แต่การปลูกผมอาจเกิดอันตรายได้ หากทำโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ ซึ่งมักเกิดจากการใช้ยาชา ยานอนหลับ หรือยาอื่นๆเกินขนาด
Q : มีโรคประจำตัว เช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง ฯลฯ สามารถปลูกผมได้ไหม ?
A : คนที่มีโรคประจำตัวก็สามารถปลูกได้ แต่ต้องควบคุมโรคประจำตัวต่าง ๆ เหล่านี้ให้ดีก่อนการปลูกผม เช่น
คนที่เป็นโรคเบาหวาน ก็ต้องควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ เพราะถ้าหากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินค่าปกติ จะมีผลทำให้แผลหายช้าหรือเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
คนที่มีความดันโลหิตสูง ก็ต้องใช้ยาลดความดันให้อยู่ในระดับปกติก่อนการปลูกผม
เนื่องจากแต่ละคนจะมีโรคประจำตัวที่แตกต่างกัน จึงควรปรึกษาแพทย์ประจำของท่านก่อนเข้ารับการปลูกผม
**แพทย์ของเราจะเป็นผู้พิจารณาเป็นรายบุคคลอีกครั้งว่า สามารถทำการปลูกผมได้หรือไม่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก
Q : ผลแทรกซ้อนจากการปลูกผม มีอะไรบ้าง ?
A : ผลแทรกซ้อนจากการปลูกผม ที่อาจเกิดขึ้น อาทิเช่น
1.อาจเกิดการบวมบริเวณหน้าผากหรือใบหน้าหลังการปลูกผม (SWELLING OR EDEMA)
2.อาจเกิดตุ่มคล้ายหัวสิว ตรงรูที่ฝังกราฟผม (PIMPLE OR FOLLICULITIS)
3.อาจมีอาการชาบริเวณหนังศีรษะ (NUMBNESS OR HYPOESTHESIA)
4.อาจเกิดผมร่วงหลังปลูกผมตรงบริเวณที่ฉีดยาชา (SHOCK LOSS)
ผลแทรกซ้อนดังกล่าวเป็นเพียงชั่วคราว และหายไปได้เอง
อ่านเพิ่มเติม ปลูกผม ผลข้างเคียง
Q : ปลูกผมมีโอกาสติดเชื้อหรือไม่ ?
A : การปลูกผมมีโอกาสติดเชื้อน้อยมาก
จากสถิติ พบว่า การปลูกผมมีโอกาสติดเชื้อมีน้อยกว่า 0.1 % หรือ น้อยกว่า 1 ใน 1000 ราย
Q : เส้นผมที่ปลูกจะขึ้นประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ ในการปลูกผมแต่ละครั้ง ?
A : ในการปลูกผมแต่ละครั้ง เส้นผมจะขึ้นมากหรือน้อย ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความชำนาญของแพทย์ ทึมงาน วิธีที่ใช้ในการปลูกผม ฯลฯ
เช่น ถ้าเป็นการปลูกผมแบบ FUT เส้นผมที่ปลูกจะขึ้นเกินกว่า 95%
Q : มีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้เส้นผมที่ปลูกไม่ขึ้นหรือขึ้นไม่ดี ?
A : สาเหตุที่ทำให้เส้นผมที่ปลูกไม่ขึ้น หรือขึ้นไม่ดี มี 5 ประการ คือ
1,ความชำนาญของทีมแพทย์และพยาบาล
2.ขึ้นกับวิธีปลูกผม ว่าเป็นแบบ FUT หรือ FUE หรือ ROBOT HAIR TRANSPLANT
3.อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ทางการแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
4.การดูแลหลังการปลูกผม โดยเฉพาะ 7 วันแรกหลังปลูกผม
5.ปัจจัยอื่นที่ยังไม่ทราบ แพทย์ปลูกผมเรียกว่า "X FACTOR"
อ่านเพิ่มเติม 5 สาเหตุปลูกผมไม่ขึ้น
Q : มีปัจจัยอะไรบ้างของตัวคนไข้ ที่ทำให้ผลการรักษาออกมาดีหรือไม่ดี ?
A : หากคนไข้คนใดที่มีปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ จะทำให้ผลการรักษาดีกว่าคนที่ไม่มี แม้ว่าจะปลูกด้วยจำนวนกราฟ เท่าๆกัน
1.เส้นผมเส้นโต เมื่อผมขึ้นแล้ว ผมเส้นโต จะดูหนาแน่นกว่า ผมเส้นเล็ก
2.ใน 1 กราฟ มีจำนวนเส้นผมหลายๆเส้น เช่น 1 กราฟ มี เส้นผม 3-4 เส้น ดีกว่า ใน 1 กราฟ มีเส้นผม 1-2 เส้น
3.เส้นผมหยิกหรือหยักศก จะดูหนากว่าเส้นผมเส้นตรง
4.สีของเส้นผมกับสีของผิวหนังกลมกลืนกัน เช่น คนที่มีเส้นผมสีดำและผิวคล้ำ (โทนสีเดียวกัน) หลังปลูกจะดูหนากว่า คนที่มีเส้นผมสีดำแต่ผิวขาว (โทนสีตัดกัน)
NOTE
แม้ว่าคนไข้ที่ขาดปัจจัยบวกดังกล่าวก็สามารถจะปลูกผมได้ผลดีเช่นเดียวกัน แต่จำต้องใช้จำนวนกราฟในการปลูกมากกว่า
ผลลัพธ์ของการปลูกผมด้านหน้าและด้านบนศีรษะ จะดูหนากว่าการปลูกผมด้านหลังตรงขวัญ (CROWN) แม้ว่าจะปลูกด้วยจำนวนกราฟที่เท่ากัน เนื่องจากทิศทางของเส้นผมและการสะท้อนของแสงที่ต่างกัน
Q : โรคประจำตัว การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ฯลฯ มีผลต่อการขึ้นของเส้นผมที่ปลูกหรือไม่ ?
A : โรคประจำตัวคนไข้ การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา มีผลน้อยมากต่อการขึ้นของเส้นผม
การที่ปลูกผมแล้วเส้นผมไม่ขึ้น หรือขึ้นไม่ดี ส่วนใหญ่เกิดจากแพทย์และทีมงานปลูกผม
Q : ใช้เส้นผมของคนอื่นมาปลูกแทนได้หรือไม่ ?
A : ไม่สามารถใช้เส้นผมของคนอื่นมาปลูกแทนได้
เนื่องจากการปลูกผมจัดเป็นการปลูกถ่ายอวัยวะอย่างหนึ่ง ต้องใช้เซลล์รากผมของตัวเองมาปลูกเท่านั้น จึงจะไม่เกิดการต่อต้านอวัยวะของตัวเอง
หากนำเซลล์รากผมของคนอื่นมาปลูก ก็ต้องกินยาเพื่อกดภูมิไว้ เพื่อไม่ให้ร่างกายต่อต้านเซลล์คนอื่นไปตลอดชีวิต จึงไม่มีใครทำ เพราะเมื่อพิจารณาถึงข้อดี ข้อเสียแล้วคงไม่คุ้มกัน
Q : ควรหยุดงานเพื่อการปลูกผม กี่วัน ?
A : ควรหยุดงาน 3-7 วัน เพื่อการปลูกผม
แต่หากมีความจำเป็น คุณก็สามารถกลับไปทำงานในวันรุ่งขึ้นได้ แต่คนรอบข้างอาจจะสังเกตเห็นได้ว่าคุณไปปลูกผมมา
หลังปลูกผมคุณสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เป็นปกติทุกอย่าง
Q : หลังปลูกผม สระผมได้ไหม ?
A : การสระผมสามารถทำได้ในวันรุ่งขึ้นหลังปลูกผม และสระได้ทุกวันหลังจากนั้น
คลินิกเรามีบริการสระผมให้คนไข้ทุกวันหลังปลูกผม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
บางคนเข้าใจว่าแผลผ่าตัดถูกน้ำไม่ได้ เดี๋ยวอักเสบ แต่แผลปลูกผมถูกน้ำได้ไม่อักเสบ เพราะหนังศีรษะมีเลือดมาเลี้ยงมาก และการสระผมยังเป็นการทำความสะอาดหนังศีรษะ ล้างเอาเชื้อโรคออกไป ทำให้โอกาสติดเชื้อยิ่งลดน้อยลง
อ่านเพิ่มเติม การเตรียมตัว
Q : ปลูกผม ต้องหยุดสูบบุหรี่ไหม ?
A : ปลูกผมไม่จำเป็นต้องหยุดสูบบุหรี่ เพราะไม่ค่อยมีผลต่อการปลูกผมสักเท่าไร
จากประสบการณ์กว่า 20 ปี พบว่า คนไข้ของเราที่สูบบุหรี่ หลังปลูกผม เส้นผมก็ขึ้นดี เช่นเดียวกันกับคนที่ไม่สูบบุหรี่
แต่ถ้าคุณหยุดหรือเลิกสูบบุหรี่ได้ ก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพคุณเองครับ
Q : หลังปลูกผมสามารถดื่มเหล้า ได้ไหม ?
A : ห้ามดื่มเหล้าในคืนแรกหลังการปลูกผม เพราะแอลกอฮอร์จะไปเพิ่มความดันโลหิต อาจทำให้เลือดออกได้
หลังปลูกผม 1 วัน คนไข้ก็สามารถดื่มเหล้าได้ตามปกติ
Q : หลังปลูกผมแล้ว เส้นผมด้านหลังจะบางลงไหม ?
A : ปลูกผมแล้ว เส้นผมบริเวณด้านหลังจะบางลงหรือไม่ ขึ้นกับวิธีที่ใช้ในการปลูกผม
ถ้าปลูกผมแบบ FUT หลังจากปลูกไป 2-3 ครั้ง สังเกตไม่เห็นว่าเส้นผมบางลง
ถ้าปลูกผมแบบ FUE หลังจากปลูกไป 2-3 ครั้ง เส้นผมอาจจะบางลงจนสังเกตเห็นได้
Q : หลังจากเส้นผมที่ปลูกขึ้นแล้ว ต้องดูแลรักษาเส้นผมเป็นพิเศษหรือไม่ ?
A : หลังจากเส้นผมที่ปลูกขึ้นแล้ว ไม่ต้องดูแลรักษาเส้นผมเป็นพิเศษ เพราะ
การปลูกย้ายรากเซลล์ผม นำเอาเส้นผมมีความแข็งแรงและสามารถอยู่กับเราตลอดชีวิตมาปลูก เมื่อผมขึ้นแล้ว จึงดูแลเหมือนเส้นผมปกติ
แต่ในระยะ 1-14 วันหลังการปลูกผมใหม่ๆ ต้องดูแลตามคำแนะนำของแพทย์
Q : หลังปลูกผมต้องสระผมด้วยแชมพูพิเศษหรือไม่ ?
A : หลังปลูกผมไม่ต้องสระผมด้วยแชมพูพิเศษ
แนะนำให้ใช้แชมพูเด็กในการสระผมหลังการปลูกผม ประมาณ 2 สัปดาห์แรก
หลังจาก 2 สัปดาห์ไปแล้ว ก็สามารถใช้แชมพูปกติในการสระผมได้ และยังสามารถขยี้บริเวณที่ปลูกผมเพื่อให้สะเก็ด (SCAB) หลุดออก โดยไม่มีอันตรายใดๆกับผมที่ปลูกอีกด้วย เพราะรากผมติดดีแล้ว
Q : หลังปลูกผม ต้องกินยาป้องกันผมร่วงไหม ?
A : หลังปลูกผมควรกินยาป้องกันผมร่วง เพื่อป้องกันไม่ให้ผมเดิมร่วงมากขึ้น
ส่วนเส้นผมที่ปลูกไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ เพราะมันแข็งแรงด้วยตัวของมันเอง เมื่อร่วงไปแล้ว ก็จะงอกใหม่ได้อีก
แต่เส้นผมเดิมที่ไม่ได้ปลูก ยังอาจจะร่วงต่อไปได้
อ่านเพิ่มเติมที่ ปลูกผมอยู่ได้กี่ปี
คลินิกเราจึงแนะนำให้คนไข้ใช้ยารักษาผมร่วง เป็นประจำหลังปลูกผม เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมเดิม (เส้นผมที่ไม่ได้ปลูก) ร่วงมากขึ้น จะได้ไม่ต้องมาปลูกผมซ้ำอีก
อ่านเพิ่มเติม ยารักษาผมร่วง
Q : ปลูกผมครั้งเดียวจบมั้ย ?
A : ปลูกผมครั้งเดียวจะจบไหม ขึ้นอยู่กับว่า
ศีรษะล้าน เป็นมากน้อยแค่ไหน ถ้าศีรษะล้านน้อย ปลูกผมครั้งเดียวก็จบครับ
แต่ถ้าศีรษะล้านมาก ปลูกครั้งเดียวไม่จบครับ ต้องมาปลูกผมซ้ำอีก
Q : ถ้าปลูกผมครั้งเดียวไม่จบ ต้องรอนานเท่าไรจึงจะปลูกผมซ้ำได้อีก ?
A : ถ้าปลูกผมครั้งเดียวไม่จบ ควรรออย่างน้อย 8-12 เดือน เพื่อให้เส้นผมที่ปลูกไปแล้วขึ้นให้หมดเสียก่อน จึงจะมาปลูกซ้ำในครั้งต่อไปได้ เพราะ
ถ้าปลูกเร็วไป อาจจะทำความเสียหายต่อเซลล์รากผมที่ยังขึ้นไม่หมด และยังเร็วเกินไปในการประเมินผลการรักษาจากการปลูกผมครั้งก่อน ว่าจำเป็นต้องปลูกเพิ่มเติมหรือไม่
Q : หลังปลูกผมจะออกกำลังกายได้อีกเมื่อไหร่ ?
A : คุณสามารถออกกำลังกายได้หลังปลูกผม ขึ้นกับว่าเป็นการออกกำลังกายชนิดใด เช่น
การเดิน วิ่ง หรือขี่จักรยาน สามารถทำได้ประมาณ 3-5 วันหลังปลูกผม
การว่ายน้ำ สามารถทำได้ประมาณ 2 สัปดาห์ (14 วัน) หลังปลูกผม
กีฬาที่มีการกระทบ กระแทก เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล ชกมวย ควรงดประมาณ 1-2 เดือน หลังปลูกผม
อ่านเพิ่มเติม การดูแลหลังปลูกผม
Q : ปลูกผมต้องพักฟื้นไหม ?
A : หลังปลูกผมไม่ต้องพักฟื้นครับ
เมื่อปลูกผมเสร็จสามารถกลับไปพักที่บ้านได้ และกลับมา FOLLOW UP อย่างน้อย 3-5 วัน เพื่อติดตามผลการรักษา และดูอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการปลูกผม
คนไข้สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติในวันรุ่งขึ้นหลังปลูกผม
Q : หลังปลูกผม ต้องมีผ้าก๊อซพันศีรษะหรือไม่ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ ?
A : หลังปลูกผม ไม่มีผ้าก๊อซพันศีรษะ แต่จะมีเพียงสายรัดศีรษะ (HEADBAND) ใส่ไว้ ป้องกันหน้าบวมเท่านั้น
นอกจากนั้นคุณอาจจะหวีเส้นผมมาบัง หรือจะสวมหมวก เพื่อบังบริเวณที่ปลูกไว้ก็ได้
ที่คลินิกเราได้จัดเตรียมผ้าคลุมศีรษะ (BANDANA) ไว้ให้สวมใส่ เพื่อปิดบังบริเวณที่ปลูกผมด้วยครับ
Q : หลังปลูกผมใหม่ๆ คนอื่นจะสังเกตเห็นไหมครับว่าไปปลูกผมมา ?
A : ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณปลูกผมแบบไหน FUT, FUE หรือ ROBOT
ถ้าปลูกแบบ FUE หรือ ROBOT ส่วนใหญ่ต้องโกนผมทั้งหมด จึงมองเห็น
ถ้าปลูกแบบ FUT โกนผมเพียงนิดเดียว ถ้าคุณไว้ผมให้ยาวเพียงพอแล้วหวีมาปิด ก็มองไม่เห็น
Q : ผลการรักษาขึ้นอยู่กับอายุคนไข้หรือไม่ เช่น คนอายุน้อยได้ผลดีกว่าคนอายุมาก ?
A : ผลการรักษาไม่ขึ้นอยู่กับอายุที่รักษา แต่ขึ้นอยู่กับ
ความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์และทีมงานที่ทำการปลูกผม
การดูแลในช่วง 1-5 วันแรกหลังปลูกผม
วิธีที่ใช้ปลูกผม ว่าเป็นวิธี FUE FUT ROBOT
Q : หลังปลูกผม สามารถตัด ดัด ย้อม หรือทำสีผมได้อีกเมื่อไหร่ ?
A : คุณสามารถตัด ดัด ย้อม หรือทำสีผมได้ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังปลูกผม
Q : เส้นผมที่ปลูกจะอยู่ถาวรไหม ?
A : เส้นผมที่ปลูกจะอยู่ถาวรกับเราหรือไม่ ขึ้นกับว่า
ถ้าแพทย์นำเส้นผมจากบริเวณเส้นผมถาวรมาปลูก เส้นผมก็จะอยู่ถาวร
แต่ถ้าแพทย์ไม่ได้นำเส้นผมจากบริเวณเส้นผมถาวรมาปลูก เส้นผมก็อยู่ไม่ถาวร
อ่านเพิ่มเติม ปลูกผมอยู่ได้กี่ปี
Q : เส้นผมที่ปลูกจะร่วงและงอกใหม่เหมือนเส้นผมปกติไหม ?
A : เส้นผมที่ปลูกจะร่วงและงอกใหม่เหมือนเส้นผมปกติ เพราะเป็นเส้นผมของเราเอง
Q : เส้นผมที่ปลูกมีความหนาแน่นเท่าเส้นผมปกติไหม ?
A : เส้นผมที่ปลูกจะมีความหนาแน่นประมาณครึ่งหนึ่ง หรือ 50% ของเส้นผมปกติเท่านั้น
แต่เมื่อดูด้วยตา เสมือนว่ามีความหนาแน่นมากกว่า 50% เพราะผมที่ปลูกจะดูหลอกสายตาว่า มากกว่าความเป็นจริง
สำหรับคนที่มีเส้นผมอ้วนๆ หรือผมหยิก อาจดูเสมือนว่ามีความหนาแน่นมากกว่า 70%-80% ก็เป็นได้
Q : เส้นผมที่ปลูกเมื่อร่วงไปแล้วจะขึ้นมาพร้อมกันหรือไม่ ?
A : เส้นผมที่ปลูกเมื่อร่วงไป จะขึ้นมาไม่พร้อมกัน เส้นผมเส้นไหนที่ร่วงก่อนก็จะงอกขึ้นมาก่อน
Q : หลังปลูกผม ต้องรอนานแค่ไหน เส้นผมที่ปลูกจึงจะขึ้นมาหมด ?
A : โดยทั่วไปต้องรอประมาณ 8-12 เดือน กว่าที่เส้นผมที่ปลูกจะขึ้นหมด
Q : ปลูกผมสามารถทำได้กี่ครั้ง ?
A : โดยเฉลี่ย จะสามารถปลูกผมได้ 2-4 ครั้ง
ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟผม และความหนาแน่นของเส้นผมที่สามารถย้ายมาปลูกได้ ว่ามีมากน้อยเพียงใด
Q : ปลูกผม 1 ตารางเซนติเมตร ต้องใช้ผมกี่กราฟ ?
A : ปกติแล้ว ควรปลูกกราฟผมประมาณ 25-45 กราฟ / ตรซม. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเส้นผมบริเวณท้ายทอยและพื้นที่ศีรษะล้าน เช่น
ศีรษะล้านน้อย เส้นผมบริเวณท้ายทอยแน่น สามารถปลูกได้ 40-45 กราฟ / ตารางเซนติเมตร
ศีรษะล้านมาก เส้นผมบริเวณท้ายทอยบาง สามารถปลูกได้ 25-35 กราฟ / ตารางเซนติเมตร
แพทย์จะแนะนำความหนาแน่นของกราฟที่ควรปลูกให้คนไข้
การปลูกผมโดยการใช้กราฟผมแน่นสุด ไม่ใช่สิ่งที่ดี เพราะกราฟผมเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด หากในอนาคตต้องปลูกเพิ่มอีก อาจมีกราฟผมเหลือไม่เพียงพอให้ปลูกได้
Q : การปลูกผมแต่ละครั้งทำสูงสุดกี่กราฟ ?
A : การปลูกผมจะปลูกได้สูงสุดประมาณ 2500-3000 กราฟต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นเส้นผมที่จะย้ายมาปลูก
Q : ผู้หญิงปลูกผมได้ไหม ?
A : ผู้หญิงก็ปลูกผมได้ วิธีในการทำเหมือนกับผู้ชาย
แต่ต้องใส่ใจในรายละเอียดเกี่ยวกับแนวผม (HAIRLINE) และปลูกเส้นผมให้ได้ความหนาแน่นมากหน่อย
ผู้หญิงเน้นความสวย ความงาม และส่วนใหญ่มีความคาดหวังสูง
อ่านเพิ่มเติม การปลูกผมผู้หญิง
Q : การปลูกคิ้ว หนวด เครา จอน ทำอย่างไร ?
A : การปลูกคิ้ว หนวด เครา จอน มีหลักการเช่นเดียวกันกับการปลูกผม โดยการย้ายเซลล์รากผมจากด้านหลังศีรษะมาปลูก
เพื่อความเป็นธรรมชาติ แพทย์มักจะใช้ กราฟชนิด 1 เส้น ในการปลูกเท่านั้น และต้องจัดเรียงเส้นผมให้ได้ทิศทางและมุมให้ใกล้เคียงกับขนคิ้วหรือหนวดที่มีอยู่เดิม หากสามารถเลือกเส้นผมให้ได้ขนาดใกล้เคียงกับขนคิ้วหรือหนวด จะยิ่งช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ในทางปฎิบัติ พบว่า เส้นผมที่หนังศีรษะ มักมีขนาดเส้นโตกว่าขนคิ้ว ทำให้ผลการรักษาไม่เนียนเหมือนขนคิ้วตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นข้อควรระวังในการปลูกคิ้ว
อ่านเพิ่มเติม ปลูกคิ้ว
แต่สำหรับการปลูกหนวด เครา จอน จะให้ผลการรักษาที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากกว่า การปลูกคิ้ว
อ่านเพิ่มเติม ปลูกหนวด เครา
Q : การปลูกผมแบบ FUE กับ FUT แตกต่างกันอย่างไร วิธีไหนดีกว่ากัน ?
A : การปลูกผมแบบ FUE กับ FUT แตกต่างกัน ที่วิธีที่ไปนำเซลล์รากผมมาปลูก
การปลูกผมแบบ FUE ใช้เครื่องมือคล้ายสว่านเจาะเซลล์รากผมออกมาทีละกอ แผลเป็นจะมีลักษณะเป็นจุดๆ กระจายทั่วๆไป
การปลูกผมแบบ FUT ใช้มีดตัดออกมาเป็นแถบ แล้วนำแถบผมมาแยกเป็นกอผมหรือกราฟโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ แผลเป็นจะมีลักษณะเป็นเส้นยาว
แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ผู้ที่ต้องการจะปลูกผมควรทำการบ้าน ศึกษาข้อมูลเชิงลึกให้เข้าใจถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธีก่อนที่จะเลือกวิธีรักษา ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละบุคคล
อ่านเพิ่มเติม ปลูกผมวิธีไหนดี
Q : ปลูกผม FUE แล้วผมไม่ขึ้นเกิดจากอะไร ?
A : ปลูกผม FUE แล้วผมไม่ขึ้น สาเหตุอาจเกิดจาก
1.แพทย์ไม่มีความชำนาญ ทำให้รากผมเกิดการบอบช้ำ หรือขาด (FOLLICULAR TRANSECTION) จากเครื่องมือที่เจาะ
2.กราฟผมตาย เพราะอยู่นอกร่างกายนานเกินไป
3.เกิดการชอกช้ำของกราฟในขณะที่ปลูกผม
Q : เหงื่อ ฝุ่นละออง มลภาวะต่าง ๆ ทำให้มีโอกาสติดเชื้อหลังปลูกผมได้ไหม ?
A : เหงื่อ ฝุ่นละออง มลภาวะต่าง ๆ มีโอกาสทำให้ติดเชื้อหลังปลูกผมได้น้อยมาก
ตั้งแต่ทำปลูกผมมา ก็ยังไม่เคยเจอเลย
Q : มีอาหารที่ห้ามรับประทานหลังปลูกผมไหม ?
A : ไม่มีอาหารที่ห้ามรับประทานหลังปลูกผม
หลังปลูกผมคนไข้สามารถรับประทานอาหารทุกอย่างได้เหมือนปกติ
Q : ถ้าไม่ปลูกผม สามารถกินยาปลูกผมแทนการปลูกผมได้ไหม ?
A : ถ้าไม่ปลูกผม สามารถเลือกกินยาปลูกผมได้ แต่ยาปลูกผม (หรือยารักษาผมร่วง) จะได้ผล เฉพาะบางบริเวณของศีรษะล้านเท่านั้น
การกินยาปลูกผม จะได้ผลเฉพาะตรงบริเวณที่มีเส้นผมอยู่เท่านั้น ยาอาจจะทำให้เส้นผมที่บางดูหนาขึ้นและร่วงน้อยลง
ส่วนบริเวณที่ไม่มีเส้นผมอยู่เลยนั้น การกินยาปลูกผมจะไม่ได้ผล ต้องทำศัลยกรรมปลูกผมเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม ยารักษาผมร่วง
Q : การดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ทำให้ศีรษะล้านจริงหรือไม่ ?
A : การดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ไม่ได้ทำให้ศีรษะล้าน
สาเหตุของศีรษะล้านส่วนใหญ่เกิดจากกรรมพันธุ์
ถึงแม้คุณไม่ดื่มเหล้าหรือไม่สูบบุหรี่ คุณก็ศีรษะล้านได้ ถ้าคุณได้รับการถ่ายทอดยีนศีรษะล้านมาจากบิดาหรือมารดาของคุณ
แต่การสูบบุหรี่หรือดื่มเหล้าในคนที่มีกรรมพันธุ์ศีรษะล้าน อาจจะเป็นปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้มีอาการศีรษะล้านก่อนวัยอันควรได้
Q : ผมหงอกเกิดจากอะไร ?
A : ผมหงอกเกิดจาก
เซลล์เมลาโนไซต์ ซึ่งอยู่ที่เซลล์รากผม หยุดผลิตสารเมลานินให้แก่เส้นผม
เซลล์เมลาโนไซต์ (MELANOCYTE) ทำหน้าที่ผลิตเม็ดสี ชื่อ เมลานิน (MELANIN) ซึ่งจะเคลื่อนเข้าไปอยู่ในตัวเส้นผม ทำให้เส้นผมมีสีต่าง ๆกัน
บางคนอาจมีผมหงอกก่อนวัยเกิดขึ้น โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
เส้นผมแต่ละเส้นจะหงอกไม่พร้อมกัน
Q : ทำไมสีของเส้นผมจึงแตกต่างกัน ?
A : สีของเส้นผมเกิดจากสารเมลานิน (MELANIN) ซึ่งมี 2 ชนิดคือ
1.ยูเมลานิน (EUMELANIN) มีสีดำ
2.ฟีโอเมลานิน (PHEOMELANIN) มีสีเหลืองหรือแดง
การที่เส้นผมมีสีต่างๆกัน ขึ้นกับส่วนผสมของยูเมลานิน กับ ฟีโอเมลานิน ถ้ามียูเมลานินมาก เส้นผมก็จะมีสีดำหรือน้ำตาล ถ้ามีฟีโอเมลานินมาก สีผมก็จะมีสีบลอนด์หรือสีทอง
Q : ผมร่วงหลังปลูกผม เกิดจากอะไร ?
A : ผมร่วงหลังปลูกผม หรือ SHOCK LOSS เป็นภาวะผมร่วงที่เกิดขึ้นตรงบริเวณที่มีการฉีดยาชาและยาห้ามเลือด
มักเกิดขึ้นประมาณ 3-4 สัปดาห์หลังการปลูกผม
SHOCK LOSS เป็นภาวะผมร่วงเพียงชั่วคราว เส้นผมที่ร่วงจะงอกขึ้นใหม่ประมาณ 3-4 เดือนหลังปลูกผม
อ่านเพิ่มเติม ปลูกผม ผลข้างเคียง
Q : ผมร่วงเยอะทุกวัน จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นผมร่วงจากกรรมพันธุ์ ?
A : ในคนปกติ จะมีผมร่วงได้ถึง 50-100 เส้นต่อวัน ส่วนผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์ จะมีลักษณะดังนี้
1.ผมร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวันติดต่อกันนาน 2 เดือน
2.ผมบางลง หรือเส้นผมมีขนาดเล็กลง
3.ศีรษะเถิก แนวผมด้านหน้าขยับสูงขึ้นเรื่อยๆจนสังเกตได้
4.มีประวัติผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านของคนในครอบครัว
Q : สารอาหาร หรือวิตามินบำรุงเส้นผม มีอะไรบ้าง ?
A : สารอาหารและวิตามินที่มีส่วนสำคัญต่อขบวนการสร้างเส้นผม ได้แก่
1.โปรตีน เป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกายและเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเส้นผมของเราด้วย เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอจะส่งผลให้เส้นผมของเราหลุดร่วงได้ง่าย แหล่งโปรตีนที่สำคัญได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ ปลา นม ถั่วต่างๆ
2.วิตามิน E และ BETA-CAROTENE เป็นสารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระให้กับเซลล์รากผมทำให้รากผมแข็งแรง แหล่งอาหารที่มีวิตามิน E สูง ได้แก่ อโวคาโด น้ำมันพืช เมล็ดธัญพืช ถั่วต่าง ๆ แหล่งอาหารที่มี BETA-CAROTENE สูง ได้แก่ ผักที่มีสีเขียวเข้มและผลไม้ที่มีสีเหลือง สีส้ม เช่น ผักคะน้า แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ เป็นต้น
3.วิตามิน A จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์รากผมใหม่ และช่วยผลิตไขมันจากต่อมไขมัน ทำให้รากผมและเส้นผมมีความแข็งแรงไม่เปราะแตกหักหรือหลุดร่วงได้ง่าย วิตามิน A พบมากใน ไข่แดง นม ฟักทอง คะน้า ข้าวโพด แครอท ผักโขม
4.สังกะสี (ZINC) เป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม มีส่วนสำคัญต่อการแบ่งเซลล์ผมใหม่ ซ่อมแซมผมที่อ่อนแอ อีกทั้งช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมันบนหนังศีรษะ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างโปรตีนและคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเส้นผม สังกะสีพบใน เนื้อสัตว์ หอยนางรม ข้าวกล้อง มันฝรั่ง แอปเปิ้ล เมล็ดฟักทอง เป็นต้น
5.วิตามิน B6 ช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่และช่วยป้องกันผมร่วง วิตามิน B6 พบได้ในมันฝรั่ง กล้วย เมล็ดทานตะวัน ปลาทูน่า มะเขือเทศ ผักโขม เป็นต้น
6.วิตามิน B12 มีส่วนสำคัญที่ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก เมื่อร่างกายขาดวิตามินชนิดนี้จะทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กลดลง และเกิดภาวะโลหิตจางซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผมร่วงได้ วิตามิน B12 พบมากในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ปลาทะเล เนยแข็ง ไข่ ตับ และผลิตภัณฑ์จากนม
7.วิตามิน C มีบทบาทสำคัญ มีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอไม่ให้ผมหงอกก่อนวัย รวมทั้งช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม วิตามิน C พบได้ในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะละกอ มะนาว ฝรั่ง เป็นต้น
8.ธาตุเหล็ก เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อเส้นผม และเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่นำออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆทั่วร่างกาย เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายขาดธาตุเหล็กก็มีผลทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง จึงทำให้เส้นผมหลุดร่วงได้ อาหารที่มีธาตุเหล็กได้แก่ ธัญพืช ถั่วต่าง ๆ เนื้อสัตว์ ไข่แดง ตับ และผักต่างๆ
9.วิตามิน B7 หรือ BIOTIN มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตของเซลล์ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างเคอราตินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมและเล็บ
BIOTIN พบมากใน ตับ เนื้อวัว ข้าวกล้อง ไข่ นม เนย เมื่อร่างกายขาด BIOTIN จะทำให้ผมหงอกก่อนวัย เล็บแตก เปราะง่าย ผมหลุดร่วงได้
Q : ควรใช้แชมพูอะไร สำหรับคนผมร่วงง่าย ?
A : การเลือกใช้แชมพูสระผมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหา ผมร่วง ผมบาง ได้เช่นกัน
ควรเลือกแชมพูที่เป็นสูตรเวชสำอางค์หรือมีส่วนผสมของยา ซึ่งมักจะไม่มีสารระคายเคืองต่อผิวหนังที่จะกระตุ้นให้ผมร่วงมากขึ้น และได้รับการทดสอบทางการแพทย์ว่า ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับเส้นผมและหนังศีรษะ
สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีสารลดแรงตึงผิวแบบสังเคราะห์ชนิด PETROLEUM BASED เพราะมักจะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ง่าย อีกทั้งสารในกลุ่ม PETROLEUM BASED มักจะมีสาร SODIUM LAURYL SULFATE (SLS) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดฟอง ซึ่งมีผลทำให้เส้นผมหลุดร่วงมากขึ้น
การเลือกใช้แชมพูสมุนไพรที่มีส่วนผสมของผิวมะกรูด เพราะผิวมะกรูดจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะ และทำให้เส้นผมไม่ขาดหลุดร่วงง่าย
แชมพูที่ใช้ควรเป็นสูตรอ่อนโยน มีค่า PH เป็นกลาง (PH 5.5) ซึ่งถือว่าอ่อนโยนและไม่ระคายเคืองต่อผิวที่บอบบาง ปราศจากสบู่และความเป็นด่าง ไม่ทำให้หนังศีรษะแห้งช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้มีสุขภาพดี
แชมพูสำหรับแก้ปัญหาผมร่วง ควรปราศจากสารซิลิโคน (SILICONE) สารซิลิโคนจะช่วยให้ผมนุ่มชุ่มชื่น เงางาม มีน้ำหนัก แต่ข้อเสียคือเมื่อใช้ไปนานๆ อาจจะทำให้เส้นผมขาดหลุดร่วงได้
เลือกใช้แชมพูที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะเพราะถ้าหากเราเลือกใช้แชมพูไม่ตรงกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของเราอาจจะทำให้ผมลีบแบน หรือหนังศีรษะแห้ง หรือมันเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย
เลือกใช้แชมพูที่ไม่มีส่วนผสมของสารพาราเบน (PARABENS) สารพาราเบนเป็นสารกันเสียที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์
เมื่อมีอาการคันหรือมีรังแค (DANDRUFF) บริเวณหนังศีรษะ ควรเลือกใช้แชมพูขจัดรังแค เพราะรังแคเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เส้นผมขาดหลุดร่วงได้
Q : คลินิกปลูกผม THTC มีสาขาที่กรุงเทพฯ ไหม ?
A : ไม่มี มีที่เชียงใหม่ที่เดียว
Q : คลินิก THTC รับรองผลการรักษาหรือไม่ ?
A : คลินิก THTC รับรองผลการรักษาทุกรายครับ
ถ้าปลูกผมไปแล้วผมขึ้นน้อย หรือขึ้นไม่ดีทางคลินิกยินดีปลูกผมให้ใหม่โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
แต่การปลูกผมซ่อมแซมต้องรออย่างน้อย 8 เดือนหลังปลูกผม เพื่อให้แน่ใจว่าผมที่ปลูกครั้งแรกไม่ขึ้นจริงๆ เพราะอาจจะมีเส้นผมบางส่วนที่ยังขึ้นไม่หมดหรืออาจขึ้นช้าได้