คลินิกปลูกผม THTC
ปลูกผมแบบมีคุณภาพ
โดยแพทย์ American Board
✅ ปรึกษา ONLINE
โดยแพทย์ American Board
มีคนจำนวนมากที่ต้องการจะปลูกผม และก็อยากรู้ว่าการปลูกผมถาวรมีขั้นตอนการทำอย่างไร ?
บางคนยังอาจจะมีความกังวลใจว่า มันได้ผลจริงหรือ ? แล้วมีผลเสียหรืออันตรายอะไรบ้างไหม ?
การปลูกผมถาวร ไม่เพียงแต่จะนำมาใช้แก้ปัญหากับคนที่มีศีรษะเถิก ศีรษะล้านเท่านั้น
แต่ยังเป็นที่ต้องการของคนอีกจำนวนมาก ที่ต้องการทำแนวผมใหม่เพื่อให้ใบหน้าของตัวเองดูดีขึ้นอีกด้วย
วิธีการปลูกผมถาวร ทำโดยการย้ายเซลล์รากผม / กราฟผม จากบริเวณด้านข้างหรือหลังของศีรษะมาปลูกยังบริเวณศีรษะล้าน
จำนวนเส้นผมจากบริเวณที่ไปเอาเส้นผมมาปลูกก็จะมีจำนวนลดลง แต่ก็จะไปเพิ่มยังที่แห่งใหม่ (บริเวณที่ปลูก) การปลูกผมจึงไม่ได้เป็นเพิ่มจำนวนของเส้นผม
ทางหากจะเปรียบเทียบก็คล้ายกับการย้ายต้นไม้ จากที่หนึ่งไปปลูกยังอีกที่หนึ่ง
การปลูกผมถาวรเป็นการผ่าตัดเล็ก โดยการใช้ยาชาเฉพาะที่ สามารถทำได้ที่คลินิกหรือที่โรงพยาบาลที่มีเครื่องมือพร้อม หลังปลูกผมคนไข้สามารถกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องนอนพักฟื้น
ปัจจุบันการปลูกผมถาวรมีหลายวิธี ได้แก่
ปลูกผม FUE คือ วิธีปลูกผมโดยการใช้เครื่องมือคล้ายสว่าน เจาะที่รูผม แล้วดึงเซลล์รากผม /กราฟผม ออกมาทีละจุด เพื่อนำไปปลูก แผลที่เกิดจากการเจาะก็จะหายไปเอง โดยไม่ต้องเย็บปิดรูที่เจาะเอาผมออกไป
ปลูกผม DHI คือ เป็นการปลูกผม FUE วิธีหนึ่ง เพียงแต่ว่าเมื่อดึงเซลล์รากผม /กราฟผมออกจากหนังศีรษะแล้ว ก็จะนำไปปลูกโดยทันที (กราฟผมถ้าเอาไว้นอกร่างกายนานจนเกินไป จะมีอัตราการตายเพิ่มขึ้น) เพื่อเพิ่มอัตราการขึ้นของเส้นผม อ่านเพิ่มเติม กราฟผมคืออะไร
ปลูกผม FUT คือ การปลูกผมโดยการตัดเนื้อผมออกมาเป็นแถบ แล้วนำแถบผมมาแยกเซลล์รากผม/กราฟผม โดยกล้องจุลทรรศน์ ก่อนนำไปปลูก
ปลูกผม MICROGRAFT คือ การปลูกผม โดยใน 1 กราฟผม จะมีเส้นผมเพียง 1-2 เส้น เท่านั้น ซึ่งอาจเป็นวิธี FUE หรือ FUT ก็ได้
อ่านเพิ่มเติม ปลูกผมถาวร
ขั้นตอน 1 สระก่อนปลูกผม
ขั้นตอน 2 ถ่ายรูป
ขั้นตอน 3 วาดแนวผม
ขั้นตอน 4 วัดพื้นที่ ที่จะปลูก
ขั้นตอน 5 เลือกเส้นผมถาวรที่จะเอามาปลูก
ขั้นตอน 6 ย้ายเซลล์รากผม
ขั้นตอน 7 ฝังกราฟผม
ขั้นตอน 8 ตรวจดูความเรียบร้อย
ขั้นตอนแรก คือการสระผมด้วยแชมพูฆ่าเชื้อ เพื่อทำความสะอาดหนังศีรษะและเส้นผม ก่อนการปลูกผม
ถ่ายรูปก่อนการปลูกผม เพื่อเก็บเอาไว้เปรียบเทียบกับรูปหลังปลูกผม
ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-8 เดือนกว่าจะเห็นผลการรักษา
แพทย์จะทำการออกแบบแนวผม (HAIRLINE) เพื่อให้เหมาะกับใบหน้าของคนไข้
ความต้องการของคนไข้
อายุของคนไข้ แนวผมควรให้เหมาะสมกับวัยของคนไข้แต่ละคน
รูปใบหน้า หน้าผากกว้าง หน้าผากแคบ
เชื้อชาติ เช่น ไทย จีน ฝรั่ง คนผิวสี ลักษณะของ HAIRLINE จะต่างกัน
แนวผมต้องดูเป็นธรรมชาติ ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป
วัดขนาดของพื้นที่ที่จะทำการปลูกผม (TRANSPLANTED AREA) เพื่อคำนวณหาจำนวนกราฟผมที่จะปลูกให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่จะปลูก และให้ได้ความหนาแน่นที่พอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
ขั้นตอนต่อมาคือ การเลือกเส้นผมจากบริเวณด้านหลังของศีรษะที่จะนำมาปลูก ตามจำนวนกราฟผมที่ได้คำนวณไว้ก่อนปลูกผม
ถ้าปลูกกราฟน้อย ก็ใช้เส้นผมด้านหลังน้อย
ถ้าปลูกกราฟมาก ก็ใช้เส้นผมด้านหลังมาก
ในขั้นตอนนี้ แพทย์จะทำการฉีดยาชา เพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกเจ็บในขณะทำการปลูกผมย้ายเซลล์
เทคนิคที่สำคัญคือ ต้องระวังไม่ให้เซลล์รากผมถูกตัดขาด (FOLLICULAR TRANSECTION)
มิฉะนั้น เส้นผมที่ปลูกจะไม่ขึ้นหรือขึ้นน้อย
แพทย์จะทำการฉีดยาชาตรงบริเวณที่จะทำการปลูกผม และใช้เข็มเจาะรู เพื่อฝังกราฟผม (GRAFT IMPLANT) ขนาดของรูจะแตกต่างกันตามขนาดของกราฟ กราฟที่มีเส้นผม 1 เส้น ขนาดของรูก็จะเล็กกว่า กราฟที่มีเส้นผม 2-3 เส้น เป็นต้น ถ้าเอากราฟผมขนาดเล็กไปใส่รูใหญ่ กราฟผมก็อาจจะหลุดได้
การปักกราฟต้องจัดเรียงเส้นผมที่ปลูก ให้ได้ทิศทางและองศาเหมือนเส้นผมเดิม (HAIR DIRECTION AND ANGLE) จึงจะดูเป็นธรรมชาติ บางคลินิกจะโกนผมบริเวณที่ปลูกเพื่อให้ง่ายต่อการปักกราฟผม แต่แพทย์จะมองไม่เห็นทิศทางของเส้นผมเดิม ทำให้ปลูกผมผิดทิศผิดทางได้ (MISDIRECTION OF HAIR)
**ขั้นตอนนี้จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อผลการรักษา
ตรวจเช็คความเรียบร้อยของงานหลังปลูกผมเสร็จ ก่อนที่จะให้คนไข้กลับบ้าน เพื่อให้การปลูกผมสมบูรณ์ที่สุด
**ไม่ควรละเลยขั้นตอนนี้เป็นอันขาด
แพทย์จะนัดคนไข้ให้มาสระผมเพื่อทำความสะอาดหลังจากปลูกผมไปแล้ว 24-48 ชั่วโมง และจะแนะนำวิธีสระผมที่ถูกต้องให้
คนไข้จึงควรมาสระผมที่คลินิกอย่างน้อย 3-5 วัน หลังจากนั้นคนไข้ก็สามารถสระผมเองได้ทุกวัน
กราฟที่ปลูกจะติดแน่นหลังปลูกประมาณ 7 วัน
ควรหยุดงาน 3-5 วัน
หลังปลูกผมประมาณ 14 วัน แพทย์จะนัดคนไข้ให้มาสระผมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อขยี้เอาสะเก็ดแผล (SCAB) ออก
หลังจากนั้นแพทย์จะนัดคนไข้มา FOLLOW UP เป็นระยะๆตามความเหมาะสม
การปลูกผมไม่อันตรายและไม่ค่อยมีผลเสียอะไรหากทำอย่างถูกวิธี
อย่างไรก็ตามความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำศัลยกรรมทุกชนิดรวมทั้งศัลยกรรมปลูกผมด้วยเช่นกัน
ไม่ฉีดยาใดๆเข้าเส้นเป็นอันขาด เพราะหากเกิดการแพ้ยา หรือผลแทรกซ้อนจากยา จะไม่สามารถแก้ไขได้ทัน
ไม่ฉีดยานอนหลับให้คนไข้ เพราะไม่ปลอดภัย ควรให้เฉพาะยากินเท่านั้น
ใช้ยาชาที่มีความเข้มข้นน้อย และปริมาณน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เพื่อให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการปลูกผมเท่านั้น ต้องมีการคำนวณปริมาณยาชาสูงสุดที่สามารถจะใช้ได้ในคนไข้แต่ละรายอย่างปลอดภัย และจดบันทึกจำนวนยาชาที่ใช้ทุกครั้ง ยิ่งใช้ยาชาให้น้อยเท่าไหร่ ความปลอดภัยก็จะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น นอกจากยาชาแล้ว ยังมียาตัวอื่นๆ เช่น ยาห้ามเลือด ซึ่งจะใช้ในปริมาณจำกัดไม่ให้เกินขนาด เช่นเดียวกับยาชา
ใช้บุคคลากรที่มีความชำนาญสูง ทำงานเป็นทีม เพื่อให้การปลูกผมไม่ใช้เวลานานจนเกินไป
เรื่องน่ารู้